เว็บห้อง303*52ร.ร.เบญจมราชูทิศ

 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

ป้ายร.ร.เบญจมราชูทิศ



(Root) 2009817_52686.jpg



(Root) 2009817_52943.jpg



ประวัติร.ร.เบญจมราชูทิศ

เมื่อ พ.ศ. 2441 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้เวลาที่ประทับแรมอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พระมหาม่วงได้เข้าเฝ้าหลายครั้ง ทรงไต่ถามถึงการพระพุทธศาสนาในจังหวัดนี้ ท่านได้ชี้แจงเป็นที่ชอบพระอัธยาศัย ทรงเห็นว่าเป็นผู้ทรงธรรมวินัยอันน่าเลื่อมใสหลายประการ และทราบว่าเป็น สหชาติ จึงทรงตั้งให้เป็นพระราชาคณะ มีราชทินนามว่า พระศิริธรรมมุนี

........ใน พ.ศ. 2442 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้เป็นผู้อำนวยการศึกษา เป็นเจ้าคณะมณฑลนครศรีธรรมราช ตลอดไปจนถึงปัตตานีด้วย ได้จัดตั้งคณะสงฆ์ การศึกษา และการศาสนา จึงเกิดผลสมพระราชประสงค์ ดังปรากฎในรายงานการศึกษา ร.ศ.119 ลงวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2443 จำนวนโรงเรียนซึ่งท่านได้ตั้งทั้งหมด 21 แห่ง โดยโรงเรียนหลวงหลังแรกตั้งอยู่ที่วัดท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีชื่อว่า "สุขุมาภิบาลวิทยา" ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับผู้อุปถัมภ์โรงเรียน คือ พระยาสุขุมนัยวินิต (ปั้น สุขุม) สมุหเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราชในสมัยนั้น นับเป็นโรงเรียนหลวงแห่งแรกของจังหวัดนครศรีธรรมราช และ ภาคใต้

........ในปีการศึกษา 2447 ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชก็เริ่มให้ความสนใจ ส่งบุตรหลานเข้าเรียนมากขึ้น พระศิริธรรมมุนี (ม่วง รัตนธโช) จึงได้สร้างอาคารเรียนเพิ่มเติมขึ้นอีก 1 หลัง และได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนมาเป็น "ศรีธรรมราช" โดยประสงค์ให้เป็นโรงเรียนประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช และโอนกิจการให้กรรมการการดำเนินการ การเรียนการสอนก็เปลี่ยนไปตามแบบกรมศึกษาธิการ ขยายเวลาเรียนออกเป็น 5 ปีตั้งแต่ชั้นมูลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 4 และยังได้เปิดแผนกฝึกหัดครูขึ้นในโรงเรียนอีกด้วย

........ด้านการเรียนการสอนเริ่มเปิดสอนในระดับประถมศึกษาก่อนแล้วจึงขยายชั้นเรียนถึงระดับม
ธยมศึกษา ครั้นเมื่อจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นจึงย้ายแผนกประถมไปเรียน ณ วัดท่ามอญหรือวัดศรีทวีในปัจจุบัน นอกจากแผนกประถม และ มัธยมศึกษา ทางโรงเรียนยังเปิดสอนแผนกฝึกหัดครู ซึ่งเรียกในสมัยนั้นว่า โรงเรียนฝึกหัดครูมณฑล และมีโรงเรียนช่างถมอีกแผนกหนึ่งด้วย จึงเป็นเหตุให้สถานที่เรียนไม่พอ ทางโรงเรียนแก้ปัญหาโดยให้นักเรียนมัธยมปีที่ ๑ ไปเรียนที่วัดศรีทวี และวัดจันทาราม พ.ศ. ๒๔๖๘ แผนกฝึกหัดครูยกเลิกไป ส่วนโรงเรียนช่างถมแยกออกไปเป็น โรงเรียนศิลปหัตถกรรม หรือวิทยาลัยศิลปหัตถกรรมในปัจจุบัน

........ปี พ.ศ. 2456 พระธรรมโกษาจารย์ (ม่วง รัตนธโช) ได้สร้างตึกชั้นเดียวให้เป็นสถานที่เรียน ณ บริเวณกำแพงวัดท่าโพธิ์ทางด้านทิศใต้ และได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น "เบญจมราชูทิศ" อันเป็นมงคลนามที่ได้รับพระราชทานจากพระบาลสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว อันมีความหมายว่า "อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่รัชกาลที่ 5" เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และอุทิศส่วนกุศลในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

........ปี พ.ศ. 2476 ด้วยเหตุที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศซึ่งตั้งอยู่ในวัดท่าโพธิ์มีเนื้อที่คับแคบ ไม่อาจขยายเนื้อที่เพื่อสร้างอาคารใหม่เพิ่มเติมได้ จึงได้ย้ายไปปลูกสร้างยังบริเวณวัดพระสูง บนเนื้อที่ 8 ไร่และแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2479 ในปี พ.ศ. 2490 เปิดสอนระดับเตรียมอุดมศึกษา มีทั้งแผนกวิทยาศาสตร์ แผนกอักษรศาสตร์ แต่ในปี พ.ศ. 2504 ได้ย้ายแผนกอักษรศาสตร์ไปเรียนที่โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช ปี พ.ศ. 2507 โรงเรียนเปิดรับสมัครนักเรียนชั้น ม.ศ.1 แทนการรับเข้าเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อย่างเดิม

........ปี พ.ศ. 2514 โรงเรียนได้เข้าโครงการโรงเรียนมัธยมแบบประสมและได้จัดซื้อที่ดินบริเวณ หมู่ที่ 3 ตำบลโพธิ์เสด็จ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้งบประมาณก่อสร้างประมาณ 30 ล้านบาท และได้ย้ายมาที่เรียนใหม่ในปี พ.ศ. 2519

........ในปี พ.ศ. 2523 โรงเรียนได้จัดสร้างรูปหล่อพระรัตนธัชมุนี (ม่วง รัตนธโช) ผู้ให้กำเนิดโรงเรียน และอัญเชิญจากวิหารหลวงวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นสถานที่หล่อมาประดิษฐานไว้ ณ ศาลาหน้าอาคาร 1

........วันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2536 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามบรมราชกุมารเสด็จแทนพระองค์ทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล
าเจ้าอยู่หัว และเปิดหอสมุดเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

 

Advertising Zone    Close
Online: 1 Visits: 28,564 Today: 2 PageView/Month: 15

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...